เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 รศ.ดร.ปริเยศ สิทธิสรวง รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร พร้อมด้วย ผศ.เจษฎา ทองสุข ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม, อ.ดร.เยาวลักษณ์ งามแสนโรจน์
รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม บุคลากร และนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เข้าร่วมขบวนพาเหรด Lampang Pride 2025 อย่างคึกคัก ภายใต้แนวคิด
“The Lampang City of Freedom and Pride – ลำปางเมืองแห่งอิสรภาพและความภาคภูมิใจ” ขบวนเริ่มต้นจากบริเวณหน้ามิวเซียมลำปาง เคลื่อนผ่านถนนพหลโยธิน โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
โรงเรียนลำปางกัลยาณี ถนนสวนดอก ถนนรอบเวียง (หน้าไก่ย่างภาณี) จนถึง ลานข่วงนคร 5 แยกหอนาฬิกา ซึ่งเป็นจุดหมายของกิจกรรมหลักในงาน
ภายในงานมีกิจกรรมที่เน้นการส่งเสริมความเข้าใจและการยอมรับในความหลากหลายทางเพศ อาทิ เสวนา หัวข้อ “พูดในความพราวว้าวในความไพรด์ – ทำไมสิทธิความเท่าเทียมทางเพศจึงเป็นเรื่องของทุกคน?”
การประกวด Lampang Pride Ambassador 2025 การแสดงจากเด็กและเยาวชน ในจังหวัดลำปางที่สะท้อนพลังของความคิดสร้างสรรค์และการยอมรับในอัตลักษณ์ของแต่ละคน
พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดงาน สะท้อนถึงความร่วมมือของภาครัฐ ท้องถิ่น
และภาคประชาชนในการขับเคลื่อนสังคมที่เคารพในศักดิ์ศรีและสิทธิของความหลากหลาย
การจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สู่เป้าหมายหมายหลักของงาน Pride Month สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีถือเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอันได้มาซึ่งสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียมและการยอมรับว่ามีตัวตนในสังคมในระดับนานาชาติ ยกให้เป็นเดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ : LGBTQ+ Pride Month ทั่วโลกต่างร่วมรำลึกการต่อสู้ และสืบทอดเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้รับการปกป้อง คุ้มครองให้ปลอดภัยจากความรุนแรงพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
เป็นการสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือที่เรียกว่าเทศกาลแห่งความภาคภูมิใจ Pride Month
การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางในกิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้นักศึกษาและบุคลากรตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของความหลากหลายทางเพศ
พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความเข้าใจ ยอมรับ และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเท่าเทียม