LPRUNEWS

งานประชาสัมพันธ์ข่าวมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

คณะวิทย์ฯ มร.ลป. จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการยกระดับนวัตกรท้องถิ่นสู่สากล ปีที่ 3

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ผศ.พิภพ นราแก้ว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในโครงการยกระดับนวัตกรท้องถิ่นสู่สากล ปีที่ 3 “องค์ความรู้นวัตกรรมสู่ว่าที่นวัตกร :  Herb, Food and Health, and Cosmetic Products, and Environmental and Agricultural Innovations” ณ ห้องประชุมเอื้องหลวง อาคาร 52 คณะครุศาสตร์และมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดยมี ผศ.ดร.วีระ พันอินทร์ รองคณบดีกล่าวรายงาน

การจัดอบรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์อาหารและสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมทางการเกษตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประเทศที่เน้นการสร้างนวัตกรรม โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทคิวพี (ประเทศไทย) โดยมีการดำเนินงานร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

ทั้งนี้ ผศ.ดร.วีรนุช คฤหานนท์ อาจารย์สังกัดสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ เป็นผู้ชี้แจงการดำเนินกิจกรรม โดยได้รับเกียรติจาก อ.ดร.นุสรา แสงอร่าม คณบดีคณะวิทยาการจัดการ เป็นวิทยากรอบรม ในหัวข้อ “การตลาดและกลยุทธ์ทางการตลาด (Marketing and Strategic Marketing) แผนธุรกิจ และ Business model canvas/Innovation business” ผศ.ดร.พรอนันต์ บุญก่อน อาจารย์สังกัดสาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ เป็นวิทยากรอบรม ในหัวข้อ “สมุนไพรพื้นบ้านล้านนา” อ.ดร.วิภานุช ใบศล อาจารย์สังกัด สาขาวิชาเคมีประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์ อ.ดร.เยาวเรศ ชูศิริ อาจารย์สังกัดสาขาวิชาเคมี  ผศ.ดร.ฉัตรสุดา มาทา อาจารย์สังกัดสาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน ผศ.ดร.วีระ พันอินทร์ อาจารย์สังกัดสาขาวิชาฟิสิกส์ และ อ.ดร.เอกชัย ญาณะ อาจารย์สังกัดสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ เป็นวิทยากรอบรม ในหัวข้อ “แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ผลิตภัณฑ์อาหารและสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมด้านการเกษตร” ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียนและครูจากโรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือเข้าร่วมแข่งขัน จำนวนกว่า 240 คน